Heart-Warming Hospitality

นับว่าโชคดีมากๆ เลยที่มาอยู่ญี่ปุ่นก็มีคนมาดูแลตั้งแต่แรก
ถึงจะแค่ช่วงเดียวก็เถอะ 555

แต่รู้สึกประทับใจคุณ Nozomi เค้าจริงๆ

วันที่ 30 หลังจากที่หลับเป็นตายจากที่ไปตะลุย Comiket มา
เค้าก็พาไปกินข้าวกลางวันแถวๆ สถานี Shibuya
กับคุณ Kou ("เพื่อน" เค้า) แล้วก็คุณ Akiko



อาหารอร่อยเหาะไปเลยครับ
แต่ราคาก็ ...เอิ่ม.. ไม่พูดถึงมันดีกว่าเนอะ ฮะๆ

แอบอยากบอกว่าคุณ Nozomi กับคุณ Kou หยอกล้อกันน่ารักมากกกกกก
(อิจฉานะเนี่ย XD)

เนื่องจาก Shinkansen ที่จะนั่งไปนาโกย่าออกตอนเย็นๆ
คุณ Akiko เลยชวนไปเดินเล่นฆ่าเวลาก่อน
(ที่จริงตอนแรกจะไปดู Avatar กัน แต่ผมดูไปแล้ว คุณ Nozomi กับคุณ Kou เลยไปดูกันแค่ 2 คน)

ก็ไปกันที่วัดเมจิกันครับ (明治神宮 Meiji Jinguu)



บรรยากาศดีมากๆ เลยครับ
คนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เพราะยังเป็นแค่วันที่ 30 ด้วย
เห็นคุณ Akiko บอกว่าถ้าเป็นวันที่ 31 คนนี้ล้นไปถึงข้างนอกเลย

เสร็จแล้วคุณ Akiko ก็ไปหา "เพื่อน" เค้าที่แถวๆ ฮาราจูกุ



แล้วก็ไปเดินดูของด้วยกัน
แต่ว่าคนเยอะสุดๆ ไปเลย แทบจะเหยียบกัน
เลยไม่ค่อยได้ดูอะไรเท่าไหร่

เดินกันพอประมาณก็กลับไปที่แมนชั่นคุณ Nozomi แล้วก็ไปขึ้นชินคังเซ็นกันครับ



นั่งสบายมากๆ
แค่สองชั่วโมงก็มาถึง Nagoya แล้ว
พ่อแม่คุณ Nozomi เค้าก็ขับรถมารับถึงสถานีเลย
แล้วพาไปกินข้าวที่ร้านแถวนั้น

อร่อยสุดๆ อีกแล้ว จนลืมถ่ายรูปไปเลย

บรรยากาศในร้านดูต่างจากที่โตเกียวพอสมควร
แบบว่าคนในร้านดูเป็นมิตร มาคุยเฮฮากับแขกได้
น่ารักดีไปอีกแบบเนอะ

กินเสร็จอิ่ม กลับมาถึงบ้านเค้าก็จัดที่นอนให้เป็นอย่างดี
ให้เข้าไปอาบน้ำคนแรกอีกตะหาก (ตามธรรมเนียมเป๊ะเลย 555)
เผลอแป๊บๆ ก็หมดไปอีกวันละครับ

พอมาวันนี้ (31)
เช้ามาเค้าก็ทำอาหารเตรียมรอไว้
อร่อยสุดๆ ไปอีกแล้ว (ไอ่เบ็งจะน้ำหนักขึ้นก็ช่วงนี้แหละ XD)



จากนั้นก็นั่งคุยกันซักพัก
(คุณแม่คุณ Nozomi พยายามคุยกับผมด้วยภาษาญี่ปุ่นง่ายๆ น่ารักมากๆ เลยครับ)
เนื่องจากวันนี้ไม่มีอะไรทำ ก็เลยมานั่งเล่นเน็ต อัพ blog
ฆ่าเวลารอไปวัดกันตอนเย็นๆ ครับ

ถึงอากาศจะหนาว แต่บรรยากาศช่างอบอุ่นเสียจริงๆ